วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555






                                           กิจกรรมของผมในช่วงปิดเทอม

รูปหุ้นหุ้นขี้ผึ้ง ของท่านบุญราศีทั้ง 7 แห่งสองคอน
ภาพด้านนอกวัด




การลงแขกช่วยกันเกี่ยวข้าว

  

.........ในช่วงปิดภาคเรียน หลังจากร่ามเข้าร่วมฝึกปฎิบัติผมได้ไปพักอยู่กับพี่สาว เกิบ1  อาทิตย์  ก็อยู่แต่ในห้องนะคราบไม่ได้ไปไหน   หลังจากนั้น  รีบกลับบ้านเพื่อจะได้กลับไปเกี่ยวข้าวช่วยพ่อกับแม่ที่บ้าน   ไม่อยากบอกเลยว่า ผมขยันจริงๆ  เพื่อนๆเอาเป็นแบบอย่างได้นะคราบ    และ  ผมยังได้มีโอกาสไปร่วมฉลองวัดสองคอนอีก  ซึ่งมีผู้คนมาเป็นจำนวนมาก   เพราะด้วยความศรัทธาใน บุญราศี  การปิดเทอมครั้งนี้ ทำให้ผม คิกถึงเพื่อนทุกคนเลย    อยากให้เพื่อนๆมาเกี่ยวข้าวช่วยหน่อนนะคราฟ
  ไม่รู้จะอธิบายยังไง............................  ขอจบเพียงเท่านี้นะคราฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

หนักๆแต่สู้


                                                  



เคี่ยว  ใช่เกี่ยวข้าวด้วยมือ
ภายในสักรสถานสองคอน


                                                                                        








เหนื่อยมาก

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

ดอยม่อนจอง Doi Mon Chong


ดอยม่อนจอง

อยู่ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่่ จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 แล้วแยกซ้ายจาก อ.ฮอด เข้าทางหลวงหมายเลข 1099 ไปจนถึงตัว อ.อมก๋อย และตรงต่อไปตามทางหลวง 1099 ประมาณ 40 กิโลเมตร จะพบกับศูนย์รักษาพันธ์สัตว์ป่า หน่วยมูเซอ จากจุดนี้ต้องขออนุญาติเจ้าหน้าที่ ติดต่อไกด์นำทางรวมถึงลูกหาบเพื่อที่จะนำสัมพาระ อาหาร น้ำดื่มน้ำใช้ อย่างต่ำ 3 วัน 2 คืน ถึงจะมีเวลาพอที่จะเดินชมธรรมชาติแบบไม่ต้องเร่งรีบ และไม่เหนื่อยไปเสียก่อน จุดที่น่าสนใจของดอยม่อนจองคือ เป็นดอยที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 กม. สันดอยที่มีลักษณะแปลกๆ ราวกับว่าเป็นกำแพงจีน (เมืองไทย) กับทุ่งหญ้าสีทองยามแสงแดดส่อง กุหลาบพันปีที่โด่งดัง โชคดีจะได้เห็นกวางผา หรือเรียกม้าเทวดาในถิ่นนี้ด้วย อีกหลายอย่างระหว่างทางจะได้พบเห็นนกหลายชนิดและดอกไม้ป่านานาพันธ์

การเดินเท้าระยะทางประมาณ 4 กิโล ทั้งป่าทึบ ป่าโปร่ง สันเขาลาดชัน ควรเริ่มต้นตั้งแต่เช้าเพราะจะใช้เวลาเดิน 3-6 ชั่วโมงแล้วแต่ว่าจะเดินสบายๆหรือแข่งเอาโล่ จนกว่าจะถึงจุดพัก ซึ่งบางครั้งก็ต้องใช้ดวงในการหาพื้นที่ที่ถูกใจในการกางเต้นท์ ใต้ดงป่าใม้เชิงดอย ปลอดจากลมหนาวที่พัดกระหน่ำหนาวบนสันดอย ความสวยงามหลังจากข้ามคืนแรกในความเหน็บหนาวก็จะมาถึงครับ

ช่วงเวลาที่สามารถท่องเที่ยวได้ จะเริ่มแค่ต้นเดือน พ.ย. จนถึงประมาณกลางเดือน ก.พ. เท่านั้น เพราะอะไรไม่บอกครับ ต้องลองไปถามเจ้าหน้าที่เหรือคนนำทางเอง จะได้ตื่นเต้น ^^ สิ่งที่ต้องเตรียมในการเดินป่า พักบนดอยอันเหน็บหนาว คงจะพอทราบกันนะครับ

ขุนแม่ยะ เชียงใหม่ ดอกนางพญาเสือโคร่ง


ดอกนางพญาเสือโคร่ง ณ ขุนแม่ยะ ตั้งอยู่ในความดูแลของ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ในสังกัดส่วนจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ และ แม่ฮ่องสอน คือตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นดอยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร อาณาเขตพื้นที่ราว 87,500 ไร่ โดยพื้นที่ ทั้งหมดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ เลา?แม่แสะ ในช่วงแรกขุนแม่ยะ เป็น ผืนป่าที่เสื่อมโทรม ถูกทำลายจนราบโล่ง แต่ต่อมาทางหน่วยได้เริ่มปลูกต้นพญาเสือโคร่งเพื่อเป็น การฟื้นฟูป่า ในช่วงแรกเนื่องจากต้นพญาเสือโคร่ง เป้นต้นไม้ที่เจริญเติบโตเร็วและยังมีดอกที่สวยงามอีกด้วยจนทุกวันนี้ต้น พญาเสือโคร่งเป็นที่รู้จักกันนามของ ดอกซากุระเมืองไทย ที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด

การเดินทางมาชมดอกพญาเสือโคร่งที่ ขุนแม่ยะ ถ้าตั้งต้นจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ให้ใช้เส้นทางถนน โชตนา (เชียงใหม่ ? ฝาง) มาถึงบ้านแม่มาลัย ประมาณหลัก กม.34 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 ทางไปปาย ไปห้วยน้ำดัง ขึ้นเขาคดเคี้ยวชมวิวไปจนถึงทางเข้า ห้วยน้ำดังด้านขวามือให้ชะลอรถขับช้าๆต่อไปเตรียมตัวได้เลย อีกกิโลเมตรกว่าๆถึง ด่านตรวจแม่ยะ หลัก กม. 67 + 500 เป็นอันว่าถึงต้นทางขึ้นดอยแล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าถนน วิบากดินลูกรังขับไต่ความสูงชันขึ้นดอย ประมาณ 8 กม. ก็จะถึงที่ทำการ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ถนนทาง เข้าก็ค่อนข้างลำบากเนื่องจากที่นี่เป็นเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ไม่มีนโยบายที่จะทำถนนถึงแม้จะเป็น สถานที่ ท่องเที่ยวก็ตามระหว่างทาง ที่นั่งรถมาผ่านทางลูกรังที่บางช่วงยังยากลำบาก ระหว่างทางเต็มไปด้วยผืนป่ารกทึบ อุดมสมบูรณ์และแน่นอนบนเส้นทางจะพบต้นนางพญาเสือโคร่งกระจายอยู่กับต้นสนสาม ใบและ และเมื่อถึง หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะสิ่งแรกที่เราเห็น ี่ตั้งแต่ปากทางเข้าคือ ความสวยงามของเจ้าดอกพญาเสือโคร่งที่เบ่ง บานเต็มยอดดอย

การเดินทาง และ ช่วงเวลา
สามารถเดินทางโดยรถยนส่วนตัว เป็นทางรูกรัง ทางค่อนข้างยากไม่เหมาะสำหรับรถเก๋ง ไม่มีที่พักไว้ให้บริการ ต้องเอาเต้นท์และอาหารไปเอง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ต้นเดือนมกราคม